วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 9
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2558

เนื้อหาในการเรียนวันนี้คือ
v
v
v
การสอนแบบโครงการ (Project Approach)
* เป็นการระดมสมอง ระดมความคิด (ไม่ใช้คำว่าโหวต) 
  • ให้โอกาสเด็กเรียนรู้โดยการสืบค้นหาข้อมูลอย่างลึกในหัวข้อที่เด็กสนใจ
  • การสืบค้นจะทำโดยเด็กกลุ่มเล็กๆที่อยู่ในชั้นเรียนหรือเด็กทั้งชั้นร่วมกัน หรือบางโอกาสอาจเป็นเพียงเด็กคนใดคนหนึ่งเท่านั้น
  • หัวเรื่องที่ถูกเลือกควรมีความหมายต่อชีวิต ต่อตัวเด็ก และครูสามารถบูรณาการเนื้อหาในการทำโตรงการของเด็กได้ด้วย
  • ลักษณะเด่นของโครงการคือ การค้นหาคำตอบจากคำถามบที่เกี่ยวกับหัวเรื่อง เด็กมีโอกาสที่จะวางแผนสืบค้นด้วยตนเอง โดยมีครูคอยช่วยเหลือ
การสอนแบบโครงการ เริ่มจาก การเลือกเรื่องที่จะเรียนโดยการระดมความคิดกันในชั้นเรียน ต่อมาก็มาพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์เดิมของเด็กแต่ละคน และตั้งคำถาม และคิดกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน สุดท้ายคือการหาคำตอบ การหาคำตอบอาจมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ การออกภาคสนาม การปฏิบัติกิจกรรม เมื่อครบทุกขั้นตอนแล้วเด็กๆก็จะมานำเสนอโครงการกัน


วิดีโอการสอนแบบโครงการ โรงเรียนเกษมพิทยา

คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=ffbZFWVFrEs
*อาจเรียนเรื่องนั้นๆเป็นเดือน ส่วนใหญ่ใช้เรียนในช่วงสุดท้ายก่อนปิดเทอม

การสอนแบบหน่วย
  • การวางแผนกิจกรรมต่างๆ ตามหัวเรื่องที่ครูพิจารณาแล้วว่าสำคัญและเด็กควรรู้
  • ครูมีการวางแผนการสอน กำหนดแนวคิดและสาระความรู้ที่ต้องการให้เด็กทราบอย่างชัดเจน
เช่น หน่วยผีเสื้อ หน่วยผัก หน่วยผลไม้ หน่วยอาหาร เป็นต้น


*ครั้งแรกที่เด็กเข้ามาเรียน เช่น เด็กอนุบาล 1 จะมีการเรียนปฐมนิเทศ  ให้เด็กได้รู้จักโรงเรียน รู้จักตนเอง ชื่อตนเอง และรู้จักสิ่งของของตนเอง เช่นแก้วน้ำ แปรงสีฟัน เป็นต้น (ครูเป็นผู้กำหนด)

ประโยชน์ของการสอนแบบโครงการ
  • ช่วยให้เด็กมีมีโอกาสที่จะประยุกต์ใช้ทักษะที่มีอยู่ และเพิ่มความชำนาญในทักษะนั้นยิ่งขึ้น
  • แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความถนัดของเด็ก
  • แสดงให้เห็นแรงจูงใจภายใน และความสนใจที่เกิดจากตัวเด็กในานและกิจกรรมที่ทำ
  • ส่งเสริมให้เด็กรู้จักตัดสินใจว่าควรทำอะไร และผู้ใหญ่ยอมรับในความต้องการของเด็กโดยที่เด็กมีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ และเด็กเป็นผู้ตัดสินใจลงมือทำด้วยตัวเด็กเอง



มาดูกิจกรรมวันนี้กันเลยค่า ^0^

วันนี้ครูพาเล่นเกมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักศึกษาตื่นตัว เกมมีชื่อว่า "เกมบอกต่อคำ"

คำ >> หมาหันมา หาหมู เห็นหูหมา

หูหมาหนา หมูหนี หมีเห็นหมู

เห็นหมูหัน หูหนี หมีหันดู

หมีหมาหา เห็นหมู หันหูดี

กิจกรรมต่อมา กิจกรรมบทบาทสมมติ









กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้คือ กิจกรรมร้องเพลง ^^



การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้

- การสอนแบบโครงเป็นการสอนที่สนุกสนานทั้งครูและเด็ก และสามารถบูรณาการความรู้ต่างๆได้อีกมากมาย ได้ลองปฏิบัติจริงเด็กได้เกิดการเรียนรู้ ทำให้มีความรู้ไปใช้ได้ในอนาคต
- การสอนเด็กร้องเพลง ครูควรมีเทคนิควิธีการหลากหลาย การเรียนวันนี้ทำให้ได้ความรู้และมีทักษะเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการสอนเพลงสำหรับเด็ก

ประเมินผล

ประเมินตนเอง - เข้าใจเนื้อหาและวิธีการในการเรียนครั้งนี้ได้ดี ครบถ้วน 
ประเมินเพื่อน - เพื่อนแต่ละกลุ่มตั้งใจเรียน สนุกสนาน และมีการช่วยเหลือกันเสมอให้ความร่วมมือดี
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์จัดบรรยากาศในห้องเรียนได้ดี  รู้สึกผ่อนคลายมีเกมให้เล่นสนุกตลอด ให้ความรู้ใหม่ๆและวิธีการต่างๆได้ครบถ้วน 





วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8
วันพฤหัสบดี ที่ 22 ตุลาคม 2558

วันนี้อาจารย์ให้แต่งเพลงตามหัวข้อของคำคล้องจองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มของเราคือ หัวข้อผัก เราใช้ทำนองเพลง พี่น้องกัน มาแต่ง พอแต่งเพลงกันเสร็จแล้วก็เอามาเขียนลงในกระดาษ...
เมื่อแต่ละกลุ่มแต่งเพลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาอาจารย์ให้ทำไม้ชี้กระดานคนละ  1 อัน 
มีวัสดุอุปกรณ์ดังนี้
1. ไม้พลาสติก
2. กระดาษแข็ง
3. กาว
4. กรรไกร
* ไม้ชี้กระดานต้องมีขนาดพอดีไม่ใหญ่มากจนเกินไปเพราะอาจจะไปบดบังตัวหนังสือ 
และส่วนปลายที่ชี้ควรเป็นปลายแหลม


ผลงานของฉัน

ผลงานของเพื่อน

เมื่อทำไม้ชี้เสร็จแล้ว อาจารย์สอนวิธีการร้องเพลง ซึ่งการร้องเพลงนั้นมี 4 เทคนิค แต่ก่อนที่จะสอนร้องเพลงก็ต้องมีการเก็บเด็กตามสเต็ป (การเก็บเด็กมีทั้งการร้องเพลง หรือ อาจจะใช้คำถาม) เทคนิคที่ 1 ร้องเพลงให้เด็กฟังก่อน เทคนิคที่ 2 ครูร้องให้ฟังแล้วเด็กๆร้องตามไปทีละท่อน อาจจะมีการทวนซ้ำอีก 1รอบ เทคนิคที่ 3 ร้องเพลงไปพร้อมๆกัน เทคนิคที่ 4 มีท่าทางประกอบเพลง ....เมื่อร้องเพลงจบแล้วก็เข้าสู่กระบวนการคำถาม และให้เด็กๆมีโอกาสถามตามอิสระ



ท้ายคาบอาจารย์แจกเพลงให้อีก 5 เพลง



การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- การสอนเรื่อง เพลง ควรร้องออกเสียงให้ชัดเจน เป็นจังหวะ มีการแบ่งวรรค ไม่ควรยาวเกินไป เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้และจดจำทำนองเพลง ตลอดจนการสอนหน้าชั้นเรียน มีวิธีการที่ต้องใช้ไหวพริบในการตอบคำถามเมื่อเด็กมีคำถาม ขณะที่ร้องเพลงครูต้องชี้ไม้ประโยคที่ร้องตามไปด้วยเสมอ
- ขั้นตอนการถามคำถามเด็ก ควรเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้ตอบ และมีเงื่อนไขโดยถ้าเด็กคนไหนอยากตอบให้ยกมือและถ้าเด็กคนไหนยกมือ ก็พยายามให้เด็กได้ตอบทุกคน
- ท่านั่งของครูควรเป็นท่านั่งพับเพียบเรียบร้อย
* การเรียนในวันนี้ทำให้มีทักษะในการแต่งคำคล้องจอง และการแต่งเพลงมากขึ้น

ประเมินผล
ประเมินตนเอง - เข้าใจเนื้อหาและวิธีการในการเรียนครั้งนี้ได้ดี ครบถ้วน และสามารถทำตามวิธีการที่อาจารย์สอนได้ ทำผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพึงพอใจ
ประเมินเพื่อน - เพื่อนแต่ละกลุ่มตั้งใจทำงาน และมีการช่วยเหลือกันเสมอ
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์จัดบรรยากาศในห้องเรียนได้ดี สนุกสนาน รู้สึกผ่อนคลาย ให้ความรู้ใหม่ๆและวิธีการต่างๆได้ครบถ้วน




วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 7
วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2558

...หลังจากเพื่อนมากันครบเรียบร้อยแล้ว อาจาร์ก็ทวนเนื้อหาจากสัปดาห์ที่แล้วคือ เรื่องการอ่านคำคล้องจองกับเด็กๆ วิธีการนั่ง การชี้ตามตัวอักษร การออกเสียง จังหวะการอ่าน การเกริ่นนำเรื่องราว และการตั้งคำถามกับเด็กๆ เช่น เรื่องพิซซ่า เด็กๆเคยกินพิซซ่าไหม เด็กๆไปกินพิซซ่าที่ไหน
...หลังจากทบทวนเนื้อหาและวิธีการเสร็จเรียบร้อยแล้ว  อาจารย์ก็ให้แต่ละกลุ่มออกไปแสดงบทบาทสมมติหน้าห้อง เป็นตัวแทนกลุ่มออกไปเป็นครูหนึ่งคนและเพื่อนๆในห้องเป็นนักเรียน ร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
คำคล้องจอง จักรวาล


คำคล้องจองจักรวาล

                                จักรวาลกว้างใหญ่ไพศาล             ดาวบริวารวนเวียนหลากสี
                                ดาวเคราะห์ลอยอยู่มากมี              วันนี้เรามาเรียนกัน
                                จักรวาลเขาว่ามีเอเลี่ยน                 มาแลกเปลี่ยนสื่อสารทางภาษา
                                จนวันหนึ่งมีมนุษย์บินขึ้นมา           เขาชื่อว่ามิสเตอร์อาร์มสตรอง

คำคล้องจอง สัตว์บนท้องฟ้า


คำคล้องจองสัตว์บนท้องฟ้า

สัตว์น้อยใหญ่โบยบินอยู่บนฟ้า
มีทั้งกา ค้างคาว นกอินทรีย์
มีผีเสื้อ หิ่งห้อย แมลงเต่าทอง
สัตว์ทั้งผองล้วนบินอยู่บนฟ้า
คำคล้องจอง ผัก

คำคล้องจองผัก

                             กินผักแล้วดีประโยชน์มากมี              ผักหลากหลายสีสวยงามสดใส
                             ผักสีม่วงม่วงหอมแดงนั่นไง              เด็กก็กินได้หอมอร่อยดี
                             ผักสีเขียวเขียวได้แก่คะน้า                อีกทั้งแตงกวาและบล็อกโคลี่
                             สีส้มแครอทมีวิตามินซี                      มาเถอะน้องพี่มากินผักกัน
คำคล้องจอง ขนมไทย


คำค้องจอง ขนมไทย

                        ขนมไทยมากมายหลากหลายสี          แดงเหลืองมีผสมกลิ่นหอมหวาน
                        ทั้งทองหยิบลูกชุบขนมตาล               รับประทานอิ่มท้องและอิ่มใจ
                        ส่วนผสมแป้งไข่ถั่วน้ำตาล                 เป็นอาหารหวานลิ้นอยากชิมไหม
                        หาซื้อตามร้านขนมไทยทั่วไป            รักษาไว้เด็กๆไทยได้ลองชิม


ท้ายคาบ อาจารย์แจกเพลงให้อีก 5 เพลงไปฝึกร้อง

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- การสอนเรื่อง คำคล้องเด็ก ควรอ่านออกเสียงให้ชัดเจนเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ตลอดจนการสอนหน้าชั้นเรียน มีวิธีการที่ต้องใช้ไหวพริบ การสอนเด็กอ่านคำคล้องจอง ขั้นแรก ให้ครูอ่านให้เด็กฟังก่อน 1 รอบ ขั้นสอง ครูอ่านให้เด็กฟังทีละประโยค แล้วให้เด็กๆอ่านตาม ขั้นสาม ครูและเด็กๆอ่านไปพร้อมๆกัน ขณะที่อ่านครูต้องใ้ม้ชี้ประโยคที่อ่านตามไปด้วยเสมอ
- ขั้นตอนการถามคำถามเด็ก ควรเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนได้ตอบ และมีเงื่อนไขโดยถ้าเด็กคนไหนอยากตอบให้ยกมือและถ้าเด็กคนไหนยกมือ ก็พยายามให้เด็กได้ตอบทุกคน
- ท่านั่งของครูควรเป็นท่านั่งพับเพียบ 

ประเมินผล
ประเมินตนเอง - เข้าใจเนื้อหาและวิธีการในการเรียนครั้งนี้ได้ดี ครบถ้วน และสามารถทำตามวิธีการที่อาจารย์สอนได้
ประเมินเพื่อน - ตัวแทนเพื่อนแต่ละกลุ่มสามารถนำเสนอได้ดี บรรยากาศสนุกสนาน มีการพูดคุยแซวกันบ้าง
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์จัดบรรยากาศในห้องเรียนได้ดี สนุกสนาน รู้สึกผ่อนคลาย ให้ความรู้และวิธีการครบถ้วน


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558

*เนื่องจากวันนี้ขาดเรียน จึงไม่มีเนื้อหาและภาพบรรยากาศในห้องเรียนมาอัพเดต แต่อาจารย์สั่งงานให้กลับไปทำเป็นการบ้าน งานเรื่อง คำคล้องจอง

คำคล้องจอง


ขั้นที่ 1 คิดเรื่องที่จะแต่งเป็นคำคล้องจอง
2 คิดส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับ ผัก เช่น สีของผัก ประโยชน์ เป็นต้น แล้วมาวาดมายแม็บในแผ่นชาร์ป
3 นำเนื้อหาเกี่ยวกับ ผัก มาหนึ่งหัวข้อ มาแต่งเป็นคำคล้องจอง
4 เขียนคำคล้องจองลงในแผ่นชาร์ป เน้นคำว่าผัก ให้เขียนด้วยปากกาสีแดง วาดรูปภาพเกี่ยวกับคำที่เป็นส่วนประกอบเกี่ยวกับผักที่อยู่ในมายแม็บ เช่น หอมแดง คะน้า แตงกวา แครอท และบล็อกโคลี่
5 วาดรูปพร้อมตกแต่งให้สวยงาม



 อาจารย์สอนวิธีการอ่านคำคล้องจอง โดยพาอ่านเป็นตัวอย่าง 1 รอบ และให้เพื่อนอาสามาเป็นครูพาเด็กๆ อ่าน ซึ่งกิจกรรมนี้ทำให้รู้ว่า จะต้องอ่านให้เด็กฟังทั้งหมดก่อน 1 รอบ แล้วก็พาเด็กอ่านทีละบรรทัด ตอนสุดท้ายก็ให้อ่านไปพร้อมกับครู... นอกจากนั้น ยังได้ความรู้อีกว่า คำคล้องจอง สำหรับเด็กนั้น ไม่จำเป็นต้อง สัมผัสถูกต้องตามหลักมาก ขอแค่มีเสียงที่คล้องจองกัน ง่ายต่อการอ่าน และการจำของเด็ก ๆ ก็พอ (Cr สิริกัลยา )


การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ได้ความรู้เรื่องการแต่งคำคล้องจองเพิ่มมากขึ้น รู้การอ่านคำคล้องจองที่ถูกวิธี
รู้วิธีการนำคำคล้องจองที่เราแต่งขึ้น ไปใช้กับเด็กได้เช่นการใส่ภาพเข้าไปจะทำให้เด็กๆจำได้ง่ายขึ้น

ประเมินผล
ประเมินตนเอง - ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควร เพราะมองภาพไม่ออกเนื่องจากขาดเรียน
ประเมินเพื่อน - เพื่อนมีน้ำใจ อธิบายงานให้เข้าใจ




วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 5
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2558  


**ไม่มีการเรียนการสอน**